Ameen in KL Part 1

                 

การบินไฟลท์เช้านี่ทรมานเนอะ ต้องตื่นแต่เช้าแล้วไม่ได้นอนต่อในวันหยุด 555 เพราะต้อง Check in ก่อน 6.00 ซึ่งบ้านผมอยู่ห่างจากดอนเมืองไม่ไกลมาก ก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าไปมาเลย์รอบนี้ รอบที่ 3-4 จำไม่ได้ละ แต่ไปครั้งนี้ คือ การไปใช้ชีวิตคนเดียว ที่อยากลองเอาตัวรอดในต่างประเทศให้ได้ ลองผิดลองถูก ลองดูสิ้ มันจะคุ้มค่าแค่ไหน ?

                โดยทริปนี้ไปแบบไม่ทันตั้งตัวเท่าไรครับ จองตั๋วล่วงหน้าก่อน แค่ 2 อาทิตย์ ในขณะที่งานยังยุ่งๆอยู่เลย เลยไม่ได้มีการวางแผนเที่ยวมาก ทริปนี้จึงไปได้ไม่ค่อยจะเยอะ (เน้นกินมากกว่า)

                หลังจากที่ Check in เรียบร้อย ผ่าน ตม. เข้า gate ไปรอขึ้นเครื่อง ผมเลือกจองกับสายการบิน Air Asia สายการบินโลว์คอส ยอดนิมยม พ่วงด้วยกับจองห้องผ่าน Airasiago ย่าน Bukit bintang ฟรี Breakfast

                เลือกที่นั่ง ริมหน้าต่าง เพราะชอบมองฟ้า แล้วขอดุอาร์ตอนดูก้อนเมฆ ซึ่งดุอาร์สำหรับผู้เดินทางนั้นเป็นดุอาร์ มุสตะญับ(ดุอาร์ที่ถูกตอบรับ) ครับ

                พอลงเครื่องมาไม่ทันไร ก็ต้องหารถเข้า KL ซึ่งมีหลายรอบให้นั่งมากๆ ราคา รอบละ 11 RM แต่ๆ ผมแนะนำให้ซื้อ 2 รอบไปกลับ เหลือ 18 RM เอง ประหยัดไปได้อย่างเยอะอะ

                ถึง KL Sental เรียบร้อย ซึ่งที่นี่เปรียบเสมือน หัวลำโพงดีไหม หรือ จะเป็นอนุเสาวรีย์ดีล่ะ เพราะว่า เป็นท่ารถไฟ ทุกๆสายเชื่อมต่อกันที่นี่เป็นศูนย์กลางครับ สิ่งที่ผมต้องหาก็คือ LRT Monorail อยู่ไหน ? นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นของความสนุกของทริปนี้จริงๆ   

                แต่ก่อนจะหาสถานี ช่วงเวลานั้นก็เที่ยงๆแล้ว เลยหาอะไรทานที่นั่นก่อน ผมเลือกจะทาน KFC ครับ เพราะบ้านเราเป็นประเด็นว่าทานได้ไม่ได้ แต่มาที่นี่ ไม่ต้องห่วง !!! เลยจัดไปหนึ่งชุด(ไม่ให้น้ำมาอีกดูแม่มม) ซึ่งประกอบไปด้วย ไก่ทอด 2 ชิ้น สลัดและมันบด บอกตรงๆเลยว่า KFC บ้านเราแซบกว่าพอสมควร หรือ ลิ้นผมมันจัดไม่แน่ใจ 555

                หลังทานอาหารกลางวันเสร็จไม่แน่ใจว่าอิ่มเปล่านะ แต่ก็มุ่งหน้าไปหาซิมก่อน จากประสบการเมื่อคราวก่อน ซื้อซิมของ Digit ไปแค่ 15 RM พร้อมซิม + โปร แต่คราวนี้ บอกตามตรงเสียค่าโง่ ได้เก็บซิมเก่าไว้นะ แต่ดันไปซื้อซิมใหม่ด้วยนี่สิ ต้องเสียไป 35 RM !!! ไม่ใช่เล่นเลยนะ เพราะ ค่า Sim 20 RM + กับ ค่าเน็ตมือถืออีก 15 RM โหยยย รู้งี้ น่าจะเอาซิมเก่าไปใช้นะ แต่ก็ไม่เป็นไร มันคือการเรียนรู้จริงๆ

                หาซิมเสร็จแล้ว ได้เน็ตเล่นแล้ว ก็หาทางไปที่พักต่อสิครับ การไปที่พักค่อนข้างจะง่ายจริงๆแล้ว แต่ผมดันไปหลงกับ Google Maps จริงๆที่ เสริชหาสถานี LRT Monorail Bukit bintang ครับ จริงๆแค่เดินออกจาก KL Sental ไปอีกนิดเดียวก็ถึงสถานีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าผมเข้าใจในการสื่อสารของคนที่นี่เปล่านะ 5555 แจกเบอร์ครับ โทรได้เลยยย 5555

                ตามรูปภาพเลยได้ขึ้นรถไฟซะที ซึ่งที่พักอยู่ย่าน Bukit bintang ย่านนี้มีชาวอาหรับและอินเดีย อาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะครับ เป็นแหล่งคล้ายๆกับ นานา เลยก็ว่าได้แหละ ที่สำคัญ อยู่ใกล้แลนด์มาร์คสำคัญอย่าง Pavillion และ Petronas twin tower ครับ

                เช็คอินเข้าห้องเรียบร้อย (เรียกเก็บ Deposit ตั้ง 50 RM แหนะ !!)

                หลังจากนั้นก็ปาไป 4 โมงแล้ว ออกจากห้องนัดเพื่อนไว้ที่ Pavillion เพื่อ พาไปกินชาบู ร้านดังของที่นี่ครับ ชื่อว่า Shabu-ya ชั้น 6 ซึ่งร้านนี้เนี่ย มีคนใช้บริการค่อนข้างเยอะ ถึงกับต่อคิวเลยทีเดียว ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ห์ ให้เวลากินถึง 2 ชม.กันเลยทีเดียว

                ความหลากหลายเมนูของที่นี่ถือว่าไม่เยอะเท่าไร ซึ่งบุฟเฟ่ห์เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะเป็น เนื้อ ไก่ แกะ กี่ถาดจะสั่งก็ได้แล้วแต่เลยครับ

                นอกจากนี้ยังมีผักสลัดให้เลือก ลูกชิ้นลูกยักษ์เลยอะ และซูชิ ให้เราเลือกอีกด้วย

ปล.ร้านนี้นะ เคยทำสถิติกินกัน 4 คนได้ถึง 32 ถาด !!! ตามภาพเลย 5555 แต่ปีนี้ กินแค่ 2 คน ผมนับอยู่ได้แค่ 8 ถาด อาจจะเพราะว่านาเดีย ไม่ค่อยหิวด้วยมั้ง 5555

ตบท้ายด้วยไอศกรีมของหวานของที่ร้านครับ

เมื่ออิ่มแล้วก็เข้าห้องนอนสิ (เอ้ยยยย จะบ้าไง มาถึงนี่ทั้งที ใจคอจะไม่แวะไปไหนอีกหรอ 555 ) จากนั้นเราก็เดินกันมาต่อเพื่อจะไป Petronas twin tower ด้วยกับทาง Sky walker ผ่าน KLCC ครับ เดินไม่ยากเลย อารมณ์คล้ายๆกับ เดินจาก CTW ไปสยามอะแหละ 5555

มาถึงแล้ว Petronas twin tower ถ้าไมได้ถ่ายรูปด้วย ถือว่ามาไม่ถึงนะ

แต่พอดีว่านัดเพื่อนชาวมาเลย์อีกคนนึงไว้ คือ Syad ครับ ซึ่งเคยเจอกันมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้าที่ผมจะมาที่นี่ ผมได้บอกกับเค้าก่อนทาง FB แล้วแหละ

ระหว่างนั่ง Syad หาน้ำแข็งใสในแบบมาเลย์มานั่งทานดู ใช้ได้เลยนะ ราคาไม่แพง 5 RM เอง

Syad มาแล้วครับ แต่งตัวหล่อมาเลย

และ Syad ก็พาผมมาดู ล่นน้ำพุหน้า Suria KLCC พวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ด้วยความที่ว่า ภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไรนัก การสื่อสาร ก็อาจจะมีภาษามือเข้ามาบ้าง แต่ Syad เป็นคนที่พยายามเข้าใจนะ ว่าผมจะสื่ออะไร ผมจะบอกอะไร เค้าก็จะพยายามเข้าใจ ตัว Syad เองเนี่ยก็ชอบคนไทยนะครับ มาเมืองไทยบ่อยครั้ง เก่งสุดๆที่ขี่บิ้กไบค์จาก KL ไปเชียงใหม่ ใช้เวลา 3 วัน ผมเองยังไม่เคยไปเชียงใหม่เลย 5555

พวกเรานั่งคุยกันจนดึกเลยประมาณ 4 ทุ่ม ก็ต้องขาตัวลากลับกันก่อน เพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ ทุกคนต้องทำงาน ต้องเรียนกันครับ

ขากลับ Syad มาส่งผมถึงที่พักเลย ผมคิดเลยนะ Syad เนี่ยเป็นเพื่อนผมคนนึงเลย เพราะใจมากขนาดนี้ (ไว้แวะมากรุงเทพจะพาไปให้เสียเลย 555 )

และคืนแรกก็จบลงแค่เท่านี้ครับ เป็นทริปที่ไม่ต้องมีแผนมากแต่สนุกตั้งกะวันเดินทางมาถึงเลย

สำหรับเรื่องราวของวันต่อไป(วันกลับ)จะเป็นอย่างไร รอติดตามได้ครับ